บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2017
รูปภาพ
เมื่อพระพุทธเจ้าปะทะเกรียน ตอนที่ 2 ต่อจากตอนที่แล้ว อัมพัฏฐมาณพได้กล่าววาจาดูหมิ่นพระพุทธเจ้าถึงวงศ์ตระกูลของพระองค์ว่าเป็นตระกูลต่ำ เป็นตระกูลคนใช้ พระพุทธเจ้าทรงหวังจะเตือนสติของอัมพัฏฐมาณพให้รู้สึกตัว จึงตรัสว่า "อัมพัฏฐะ เธอมาที่นี่เพราะมีธุระก็ควรตระหนักถึงธุระนั้นไว้ให้ดี ท่านทั้งหลาย อัมพัฏฐมาณพนี้ไม่ได้รับการอบรมแต่สำคัญตนว่าได้รับการอบรมมาดี ไม่มีอะไรเลยนอกจากมารยาทของคนที่ไม่ได้รับการอบรม” ทันทีที่ถูกพระผู้มีพระภาคตรัสว่าเป็นคนไม่ได้รับการอบรม อัมพัฏฐมาณพก็โกรธเคืองไม่พอใจ เกิดความคิดชั่วต้องการจะด่าว่าพระพุทธเจ้าให้เสียหาย จึงได้ด่าเจ้าศากยะต่อหน้าพระผู้มีพระภาคว่า “ท่านพระโคดม คนชาติศากยะดุร้าย หยาบช้า เป็นคนรับใช้ ไม่ยอมสักการะ เคารพ บูชาพวกพราหมณ์เลย การที่คนชาติศากยะทำเช่นนั้น เป็นการไม่เหมาะไม่ควรเลย” แม้จะถูกผู้น้อยทำเรื่องเสียมารยาทใส่ แม้จะถูกดูหมิ่นถึงวงศ์ตระกูล พระพุทธเจ้าก็ทรงวางพระองค์อย่างเป็นกลาง ทรงตรัสถามเหตุผลที่มาณพโกรธเจ้าศากยะว่า "อัมพัฏฐะ พวกเจ้าศากยะได้ทำผิดอะไร ต่อเธอหรือ?” อัมพัฏฐมาณพเมื่อได้โอกาส ก็ทูลตอบประสบการณ์ที่ตนไป...
รูปภาพ
เมื่อพระพุทธเจ้าปะทะเกรียน ตอนที่ 1 หนึ่งในเรื่องไม่ดีที่ไม่ว่าใครต่างก็พบเจอในชีวิตก็คือ การถูกว่าร้ายโจมตีจากคนที่ไม่ชอบเรา ทำให้เราต้องอารมณ์เสีย และทำให้เราเสียภาพพจน์ต่อบุคคลอื่นด้วยผลจากการว่าร้ายของคนอื่น ถ้าเป็นคนที่ว่าร้ายเป็นคนมีเหตุผล ก็ยังพอจะหาสาเหตุพูดคุยกันเพื่อจบปัญหาได้ แต่บางรายก็ฉอดๆมาจ้องแต่โจมตีเราอย่างเดียวโดยไม่ฟังเหตุผลใดๆทั้งสิ้น อธิบายอย่างไรก็ไม่รับฟัง เพียงเพื่อระบายอารมณ์ใส่  เพื่อทำให้ตนเองรู้สึกเหนือกว่า โดยหารู้ไม่เลยว่า ยิ่งทำตัวเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้ผู้คนมองว่าตนเป็นคนมีปมด้อย ไม่อาจจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตของตนได้ จึงหาทางออกด้วยการทำแย่ๆใส่ผู้อื่นเท่านั้น บุคคลประเภทนี้ถูกเรียกในปัจจุบันว่า "เกรียน" เป็นบุคคลที่เล่นสนุกด้วยการก่อกวนผู้อื่น โจมตีกลั่นแกล้งต่างๆนานาเพียงเพราะนึกสนุกเท่านั้น เป็นตัวสร้างมะเร็งทางอารมณ์ต่อผู้คนที่ได้พบเจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้ที่มีโซเชียลแล้ว ทำให้เราได้เห็นเกรียนตามสื่อต่างๆได้ง่ายขึ้น ทราบหรือไม่ว่า เกรียนไม่ใช่เพิ่งมีในปัจจุบันเท่านั้น แต่มีตั้งแต่ในสมัยพุทธกาล และครั้งหนึ่งแม้แต่พระพุทธ...
รูปภาพ
อธิบายคำแปลและความหมายธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ตอนที่ 8 ( ตอนจบ) เมื่อพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงการตรัสรู้อริยสัจของพระองค์จบลง ก็ได้บังเกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นดังนี้               ภุมมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา จาตุมมะหาราชิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ               เทพเจ้าเหล่าชั้นจาตุมหาราช ได้ฟังเสียงของเทพเจ้าเหล่าภูมิเทวดาแล้ว ก็ยังเสียงให้บันลือลั่น                   จาตุมมะหาราชิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ตาวะติงสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ               เทพเจ้าเหล่าชั้นดาวดึงส์ ได้ฟังเสียงของเทพเจ้าเหล่าชั้นจาตุมหาราชแล้ว ก็ยังเสียงให้บันลือลั่น                ตาวะติงสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ยามา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ฯ                                เทพเจ้าเหล่าชั้นยามา ได้ฟังเสียงของเทพเจ้าเหล่าชั้นดาวดึ...
รูปภาพ
อธิบายคำแปลและความหมายธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ตอนที่ 7 ญาณทัสสนะอันบริสุทธิ์ จักษุ (เห็น) ญาณ (รู้) ปัญญา (รู้รอบ) วิชชา (แทงตลอด) และแสงสว่าง (ดับความมืดคือความไม่รู้ได้สิ้น ไร้ข้อสงสัยอีกต่อไป) รวมเรียกว่าญาณทัสสนะ เมื่อเกิดขึ้นในอริยสัจ 4 ทั้ง 3 รอบ ญาณทัสสนะของพระองค์จึงบริสุทธิ์ดีแล้ว กำจัดความมืดคืออวิชชาได้หมดสิ้น พระพุทธเจ้าได้ทรงอธิบายในบทธัมมจักฯนี้ว่า             ยาวะกีวัญจะ เม ภิกขะเว อิเมสุ จะตูสุ อะริยะสัจเจสุ เอวันติปะริวัฏฏัง ทวาทะสาการัง ยะถาภูตัง ญาณะทัสสะนัง นะ สุวิสุทธัง อะโหสิ ฯ                           ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปัญญาอันรู้ตามความเป็นจริงอย่างไร (ยถาภูตญาณทัสสนะ)   ในอริยสัจ 4 เหล่านี้ของเรา ซึ่งมีรอบ 3 มีอาการ 12 อย่างนี้ ยังไม่หมดจดเพียงใดแล้ว             เนวะ ตาวาหัง ภิกขะเว สะเทวะเก โลเก สะมาระเก สะพรัหมะเก สัสสะมะณะพราหมะณิยา   ปะชายะ สะเทวะมะนุสสายะ อะนุตตะรัง สัมมาสัมโพธิง อะภิสัมพุทโธ ปัจจัญญาสิง ฯ ...